1.เช็คตำแหน่งรูท่อน้ำเสียที่ช่างประปาเดินท่อไว้ที่พื้นห้องน้ำ จะเห็นเป็นท่อขนาดใหญ่ 4” ให้เช็คจุดศุนย์กลางท่อว่าห่างจากผนังเท่าไหร่ และเลือกซื้อสุขภัณฑ์ให้ตรงตามระยะท่อ แต่หากเป็นห้องน้ำที่สร้างขึ้นใหม่ ปกติช่างประปาจะให้เจ้าของบ้านเช็คโถชักโครกที่ต้องการใช้ว่ามีระยะท่อน้ำเสียห่างจากผนังเท่าไหร่ เนื่องจากโถแต่ละรุ่น แต่ละยี่ห้อก็อาจผลิตไม่ตรงกัน การเลือกโถที่ระยะไม่ตรงกับรูท่อ อาจก่อให้กลิ่นจากการกำจัดของเสียไม่ลงไปในท่อ อาจตกค้างตรงจุดรอยต่อได้
2.สมัยนี้คอนโดหลายๆที่ใช้โถชักโครกแบบแขวนผนัง หรืออาจเป็นแบบท่อออกผนัง การเลือกโถชักโครกควรเช็คให้ดีเสียก่อน โดยเฉพาะระยะความสูงของท่อควรห่างจากพื้นตามที่โถชักโครกรุ่นนั้นๆระบุไว้ หากระยะๆม่ตรงก็จะติดตั้งไม่ได้ ยากกว่าการติดตั้งแบบท่อลงพื้นเสียอีก
3.ก่อนซื้อควรลองนั่งกับโถที่เราเลือกไว้ เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการ บางคนชอบชักโครกที่นั่งสูงและเตี้ยต่างกัน บางคนชอบฝารองนั่งที่เอียงรับสะโพกได้ดีนั่งสบาย
4.ดูระบบการชำระ ( Flushing ) โดยสุขภัณฑ์แต่ละประเภทมีระบบการชำระล้างที่แยกย่อยออกไป แต่โดยทั่วไปจะมีอยู่ 4 ระบบ คือ
1.ระบบ Wash-Down ใช้หลักการน้ำใหม่แทนน้ำเก่า ในปริมาณที่น้อยกว่าระบบอื่น
2.ระบบ Siphonic Wash-Down มีระบบการทำงานที่คล้ายกับระบบ Wash-Down แต่มีรูปร่างของคอห่านที่โค้งกลับ ทำให้เกิดกาลักน้ำ ช่วยดึงดูดสิ่งปฏิกูลได้อีกทางหนึ่ง
3.ระบบ Siphon-Jet เป็นระบบที่มีหัวฉีด (Jet Hole) ช่วยเพิ่มแรงดึงดูดของน้ำให้เร็วยิ่งขึ้น จึงชำระสิ่งปฏิกูลได้รวดเร็วขึ้น
4.ส่วนระบบ Siphon Vortex เมื่อกดชำระ ภายในโถจะเกิดการหมุนวนของน้ำ และดูดสิ่งปฏิกูลได้รวดเร็ว โดยจะชำระล้างด้วยเสียงที่เงียบกว่าระบบอื่นๆ
1.โถสุขภัณฑ์ที่ดี ควรจะมีขนาดคอห่านที่ใหญ่ มีแอ่งกันกลิ่นที่ลึก และมีขนาดของพื้นผิวน้ำกว้าง เพื่อช่วยให้มีคุณสมบัติในการชำระล้างดี และช่วยป้องกันกลิ่นย้อนกลับ หรือ ป้องกันคราบสิ่งปฏิกูลติดบริเวณผิวรูปภายในของโถสุขภัณฑ์
- A พื้นผิวน้ำขัง (Water Surface) ควรมีขนาดกว้าง เพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งปฏิกูลติดผิวภายในโถสุขภัณฑ์ครับ
- B แอ่งกันกลิ่น (Water Seal) ควรให้มีขนาดลึก เพื่อป้องกันกลิ่นย้อนกลับ
- C คอห่าน (Trap Way) ถ้ามีคอห่านขนาดใหญ่ จะช่วยป้องกันการอุดตันได้ดีขึ้นครับ
